การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทำนายเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเด็กวัยรุ่นกลุ่มอาการเนฟโฟรติก กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กวัยรุ่นกลุ่มอาการเนฟโฟรติกอายุระหว่าง 10-15 ปี ที่เข้ารับการตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกกุมารเวชกรรมโรงพยาบาลตติยภูมิ ที่มีคุณสมบัติที่กำหนดจำนวน 88 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร แบบสอบถามสมรรถนะแห่งตนในการปฏิบัติ แบบสอบถามประโยชน์ของการปฏิบัติ และแบบสอบถามอิทธิพลของครอบครัวและกลุ่มเพื่อนในการปฏิบัติพฤติกรรมการรับประทานอาหาร วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งเป็นเพศชาย (ร้อยละ 56.81) มีอายุอยู่ระหว่าง 11 -15 ปี (ร้อยละ 73.86) กำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษา (ร้อยละ 52.27) มีลักษณะครอบครัวเป็นครอบครัวเดี่ยว (ร้อยละ 64.77) มีรายได้เฉลี่ยของครอบครัวต่อเดือนมากกว่า 5,000 - 10,000 บาท (ร้อยละ 46.59) และร้อยละ 96.59 มีเพื่อนสนิท รับประทานอาหาร 3 มื้อต่อวัน (ร้อยละ89.77)ส่วนใหญ่รับประทานอาหารที่บ้าน (ร้อยละ 95.45) อาหารที่รับประทานในโรงเรียนเป็นประเภทอาหารจานเดียว (ร้อยละ72.72) กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารโดยรวมในระดับสูง (x̄ = 42.99, S.D. = 5.306) โดยพบว่า ด้านการเลือกชนิดอาหาร และด้านการหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ควรรับประทานอยู่ในระดับสูงด้านการรับประทานอาหารที่เหมาะสมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน พบว่า อิทธิพลของครอบครัว และกลุ่มเพื่อนในการปฏิบัติพฤติกรรมการรับประทานอาหาร สามารถทำนายการปฏิบัติพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเด็กวัยรุ่นกลุ่มอาการเนฟโฟรติกได้ร้อยละ 23.40 (R2= 0.234, p<0.001) ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงถึงกลุ่มเพื่อนมีผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารในเด็กวัยรุ่นกลุ่มอาการเนฟโฟรติก ซึ่งพยาบาลและบุคลากรทีมสุขภาพสามารถใช้เป็นแนวทางในการสร้างเสริมพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเด็กวัยรุ่นกลุ่มอาการเนฟโฟรติก เพื่อหาแนวทางหรือวิธีการส่งเสริมโดยการมุ่งเน้นให้กลุ่มเพื่อนมีส่วนในการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเด็กวัยรุ่นในกลุ่มนี้